ต่อเรื่องพัดลม(2) ครับ..สำหรับ Backward Blade
Type Centrifugal Fan ซึ่งจะเป็นชนิดที่นิยมที่สุดในระบบปรับอากาศ
และระบบระบายอากาศในปัจจุบัน
เพราะการออกแบบของใบพัดทำให้ได้แรงดันอากาศที่สูง
เมื่อเทียบกันที่ปริมาณอากาศไหลที่เท่ากัน
มาดูกันที่กราฟนะ
ครับ..ประสิทธิภาพสูงสุด( 80%)อยู่ที่ ปริมาณอากาศไหล
60%ของปริมาณอากาศส่งได้ทั้งหมด
และเป็นจุดที่กินพลังงานสูงสุดพร้อมทั้งให้แรงดันอากาศออกมามากที่สุด
ถ้าตัดสินใจใช้จุดนี้เป็นจุดทำงาน การบำรุงรักษาต้องทำอย่างละเอียด
และบ่อยครั้ง
โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างและและการสั่นสะเทือนครับ..ซึ่งไม่เหมาะที่จะ
เลือกใช้เป็น จุดทำงานของพัดลม แต่เอาไว้เป็นจุดทำ commissioning ได้
เพื่อดูประสิทธิภาพที่สามารถรีดแรงดันออกมาได้มากที่สุด..(เริ่มเข้าใกล้
เทอร์โบของรถยนต์เข้าไปทุกที่แล้ว..หยุดก่อน)..
ลองมาดูจุดที่น่าเหมาะสมกว่านี้ที่ 70 % ของปริมาณลมที่ส่งได้ทั้งหมด
จะพบว่าแรงดันจะลงมาที่ 80 % ประสิทธิภาพใกล้ 80%
การกินพลังงานต่ำลงมาเล็กน้อย น่าจะเป็นจุดที่สบายใจและปลอดภัย
ในการใช้เป็นจุดทำงานครับ.
ข้อดีของพัดลมชนิดนี้มีอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับพื้นที่กราฟที่เป็นสีเหลือง
จะเห็นได้ว่าเมื่อปริมาณการส่งของอากาศเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเต็ม 100 %
แต่ความต้องการพลังงานของมอเตอร์กลับลดลง ซึ่งจะป้องกันไม่ให้เกิดมอเตอร์
Overload และไหม้ในที่สุดได้ครับ..
Credit ภาพ: www.toolboxengineering.com
วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
Forward Curve Blade Type Centrifugal Fan เป็นอย่างไร
ต่อเรื่องพัดลมครับ..เพื่อเอาไปใช้งานในการวิเคราะห์การเลือกใช้.
พัดลมขนาดใหญ่จะมีกราฟประจำทุกเครื่อง ซึ่งมาจากการทดสอบหลังจากการผลิตซึ่งเรียกหาได้จากผู้ขายครับ.
จากกราฟด้านล่างเป็นกราฟของ Forward Blade Type การใช้งานของพัดลมที่เหมาะสมต้องไม่เกิน 50 % ของปริมาณอากาศที่สามารถส่งได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นช่วงที่ประสิทธิภาพ, ความดัน และความต้องการพลังงาน (30%ของทั้งหมด) ดีที่สุด แต่ถ้าเราใช้งานเกินจุดนี้ไปจะทำให้เกิดข้อเสียต่างๆคือ
1.ความดันของอากาศที่พัดลมอัดมาไม่แรง คือไม่มีลมออกที่หัวจ่าย ทั้งๆที่พัดลมยังทำงานอยู่.
2.ประสิทธิภาพของพัดลมจะลดลงน้อยกว่า 50% คือ จ่ายไฟเพิ่มขึ้น พัดลมหมุนเร็วขึ้น มอเตอร์หมุนเร็วขึ้น แต่ลมที่ออกมาไม่มีแรงดัน
3.จ่ายค่าไฟสูงขึ้นแน่นอนเพราะมอเตอร์ต้องกานกระแสไฟฟ้ามากขึ้น ตามรอบมอเตอร์ที่สูงขึ้น
ฉะนั้น. ถ้ามีการดูแลวัดประสิทธิภาพพัดลมอยู่ประจำและพิจารณาประกอบกับกราฟประจำตัว พัดลม..เราจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายพลังงาน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะสูงเป็นอันดับต้นๆอยู่ใน Overhead ของสถานประกอบการครับ.
Credit ภาพ. www.engineeringtoolbox.com
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่.https://www.facebook.com/profile.php?id=100006197296281
พัดลมขนาดใหญ่จะมีกราฟประจำทุกเครื่อง ซึ่งมาจากการทดสอบหลังจากการผลิตซึ่งเรียกหาได้จากผู้ขายครับ.
จากกราฟด้านล่างเป็นกราฟของ Forward Blade Type การใช้งานของพัดลมที่เหมาะสมต้องไม่เกิน 50 % ของปริมาณอากาศที่สามารถส่งได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นช่วงที่ประสิทธิภาพ, ความดัน และความต้องการพลังงาน (30%ของทั้งหมด) ดีที่สุด แต่ถ้าเราใช้งานเกินจุดนี้ไปจะทำให้เกิดข้อเสียต่างๆคือ
1.ความดันของอากาศที่พัดลมอัดมาไม่แรง คือไม่มีลมออกที่หัวจ่าย ทั้งๆที่พัดลมยังทำงานอยู่.
2.ประสิทธิภาพของพัดลมจะลดลงน้อยกว่า 50% คือ จ่ายไฟเพิ่มขึ้น พัดลมหมุนเร็วขึ้น มอเตอร์หมุนเร็วขึ้น แต่ลมที่ออกมาไม่มีแรงดัน
3.จ่ายค่าไฟสูงขึ้นแน่นอนเพราะมอเตอร์ต้องกานกระแสไฟฟ้ามากขึ้น ตามรอบมอเตอร์ที่สูงขึ้น
ฉะนั้น. ถ้ามีการดูแลวัดประสิทธิภาพพัดลมอยู่ประจำและพิจารณาประกอบกับกราฟประจำตัว พัดลม..เราจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายพลังงาน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะสูงเป็นอันดับต้นๆอยู่ใน Overhead ของสถานประกอบการครับ.
Credit ภาพ. www.engineeringtoolbox.com
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่.https://www.facebook.com/profile.php?id=100006197296281
การเลือกใช้พัดลมแบบ Centrifugal ในระบบปรับอากาศ
การเลือกใช้พัดลมแบบ Centrifugal ในระบบปรับอากาศที่นิยมใช้มี 2 ชนิดคือ
1.Forward Curved Blade Fan.(FW)
2.Backward Curved Blade Fan.(BW)
จุดน่าสนใจ
1.FW จะราคาถูกกว่า BW
2.ความต้องการพลังงาน(BHP) ของFW Type จะสูงขึ้นตาม CFM ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นผลให้ Motor ที่ขับพัดลมเกิดการ Overload ได้ ถ้าเกินกว่าความสามารถของ Motor
3.ความต้องการาพลังงาน(BHP) ของ BW Type จะสูงถึงจุดหนึ่งแล้วลดต่ำลง ถึงแม้ว่า CFM จะเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆก็ตาม ซึ่งจะป้องกัน Motor ที่ขับพัดลมไม่เกิดการ Overload ระบบจะยังสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
* กราฟเส้นเหลืองใน FW พุ่งขึ้นไม่หยุด จึงเป็นเหตุให้ Overload ที่ Motor ได้ ถ้าไม่ตั้ง Overload Protection ไว้ จะทำเกิด Motor ไหม้ได้ครับ...ข้อควรระวัง
ฉะนั้นในระบบปรับอากาศที่ต้องการความเชื่อมั่น ( Reliability) ที่ระดับสูง ควรเลือกใช้ BW Type จะเหมาะสมกว่า..แต่ต้องแลกด้วยราคาที่สูงกว่า
Credit ภาพ.www.engineeringtoolbox.com
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่.https://www.facebook.com/profile.php?id=100006197296281
1.Forward Curved Blade Fan.(FW)
2.Backward Curved Blade Fan.(BW)
จุดน่าสนใจ
1.FW จะราคาถูกกว่า BW
2.ความต้องการพลังงาน(BHP) ของFW Type จะสูงขึ้นตาม CFM ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นผลให้ Motor ที่ขับพัดลมเกิดการ Overload ได้ ถ้าเกินกว่าความสามารถของ Motor
3.ความต้องการาพลังงาน(BHP) ของ BW Type จะสูงถึงจุดหนึ่งแล้วลดต่ำลง ถึงแม้ว่า CFM จะเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆก็ตาม ซึ่งจะป้องกัน Motor ที่ขับพัดลมไม่เกิดการ Overload ระบบจะยังสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
* กราฟเส้นเหลืองใน FW พุ่งขึ้นไม่หยุด จึงเป็นเหตุให้ Overload ที่ Motor ได้ ถ้าไม่ตั้ง Overload Protection ไว้ จะทำเกิด Motor ไหม้ได้ครับ...ข้อควรระวัง
ฉะนั้นในระบบปรับอากาศที่ต้องการความเชื่อมั่น ( Reliability) ที่ระดับสูง ควรเลือกใช้ BW Type จะเหมาะสมกว่า..แต่ต้องแลกด้วยราคาที่สูงกว่า
Credit ภาพ.www.engineeringtoolbox.com
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่.https://www.facebook.com/profile.php?id=100006197296281
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)